การปั่นจักรยาน ช่วยทำให้นักวิ่ง วิ่งได้ดีขึ้น

นักวิ่งหลายคนคงเคยสังเกต เห็นกันมาบ้างแล้วเมื่อเห็นเพื่อนที่ปกติเป็นนักปั่นแล้วมาลงงานวิ่งแล้วทำเวลาได้ดี บางคนถึงกับติดอันดับและได้ชูถ้วยรางวัล ทั้งที่ซ้อมวิ่งจริง ๆ จัง ๆ เพียงไม่กี่สัปดาห์ คำตอบก็คือว่าใช่แล้วการปั่นจักรยานนั้นมีผลทำให้นักวิ่งทำเวลาได้ดีขึ้นและแถมยังอึดขึ้นอีกด้วย เพราะว่าการปั่นจักรยานนั่นสร้างประโยชน์โดยตรง ต่อกล้ามเนื้อขา และข้อต่อส่วนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหัวเข่า และข้อเท้าค่อนข้างจะสมบูรณ์เนื่องจากไม่ได้รับแรงกระแทกบ่อย ๆเหมือนการที่วิ่งเป็นประจำนั่นเอง

ปั่นจักรยาน เพื่อฟื้นฟูร่างกายและทำให้วิ่งดีขึ้น

การปั่นจักรยานนั้น ถือว่าเป็นการ Cross-training โดยเฉพาะเมื่อนักวิ่งมีอาการบาดเจ็บ หรือว่าอยู่ในช่วงที่กำลังพักฟื้น การปั่นจักรยานนั้น ถือเป็นการฝึกซ้อมไปในตัวเพื่อยังคงรักษาระดับความฟิตไว้เพราะสามารถทำให้การไหลเวียนของเลือดนั้นดีขึ้นโดยเฉพาะที่ขา และส่วนต่าง ๆ ตรงบริเวณขาที่มีอาการบาดเจ็บก็จะไม่ต้องรับแรงกระแทกซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้หายช้าหรือมีอาการบาดเจ็บเรื้อรังได้ แถมเมื่อหายจากการบาดเจ็บแล้วกลับมาวิ่งก็สามารถทำเวลาได้ดีกว่าเดิมได้อีกด้วย

แล้วนักวิ่งควรจะเริ่มต้นปั่นจักรยานยังไง

สำหรับนักวิ่งที่ไม่มีจักรยานนั้น ควรจะเริ่มต้นการปั่นจักรยานในร่มจะดีที่สุด ซึ่งก็มีให้บริการตามฟิตเนสก็ได้ เพราะว่าการจะตัดสินใจซื้อจักรยานนั้น เราเองก็ยังไม่แน่ใจว่าเราพร้อมจะเปลี่ยนแนวจากวิ่งมาสู่การปั่นจักรยานได้มากน้อยแค่ไหน แต่ถ้าหากลองปั่นในร่มไปสักพักแล้วรู้สึกว่าเป็นผลดี รู้สึกติดใจ ปั่นในร่มแล้วน่าเบื่อ ถึงตอนนั้นค่อยคิดจะซื้อก็ไม่สายไป ซึ่งจริง ๆ แล้วนักวิ่งมีจักรยานไว้สักคันก็คงดีไม่น้อยเพื่อเอาไว้ปั่นตอนเกิดอาการบาดเจ็บและเป็นการฝึก Cross-training ที่ดีเลยทีเดียว

เมื่อนักวิ่งคิดจะซื้อจักรยานมาไว้ปั่นสิ่งที่ต้องรู้

โดยจักรยานนั้นแบ่งเป็น 4 แบบหลัก ๆ คือ จักรยานถนน, จักรยานไตรกีฬา, จักรยานไฮบริด และจักรยานภูเขา ซึ่งก็มีแตกต่างกันดังนี้ จักรยานถนน เป็นจักรยานที่เน้นน้ำหนักเบา จะปั่นทางราบ หรือขึ้นทางชันก็ได้ มีการเกาะถนนค่อนข้างที่จะดีเพราะถูกออกแบบมาให้ใช้กับพื้นถนนทั่วไปซึ่งบางคนเรียกจักรยานชนิดนี้ว่าเสือหมอบนั่นเอง จักรยานสำหรับไตรกีฬา ซึ่งจักรยานสำหรับแข่งไตรกีฬานั้นสามารถจะใช้จักรยานอะไรก็ได้แต่โดยที่เห็นส่วนมากจะเป็นเสือหมอบแต่จักรยานไตรกีฬานั้นจะมีเพิ่มเติมเข้ามาก็คือ Handlebar เพื่อเพิ่มความ แอโรให้กับนักปั่นนั่นเอง  จักรยานไฮบริด เป็นจักรยานที่เหมาะจะปั่นในเมือง เป็นการผสมผสานระหว่างเสือหมอบและเสือภูเขานั่นเอง จักรยานเสือภูเขา จักรยานชนิดนี้ขี่บนถนนได้เหมือนกันแต่เหมาะที่จะขี่บนทางวิบากมากกว่าเพราะจักรยานถูกออกแบบมาเพื่อสิ่งนั้น ซึ่งข้อเสียของจักรยานเสือภูเขาก็คือมีน้ำหนักที่ค่อนข้างจะเยอะนั่นเอง

อยากวิ่งเร็วขึ้น ก็ต้องปั่นแบบ intervals

สำหรับนักวิ่งนั้นคงจะคุ้นเคยกันดีอยู่แล้วกับการฝึกซ้อมแบบ  intervals หรือภาษานักวิ่งเรียกว่าลงคอร์ท ซึ่งในเมื่อยังมีอาการบาดเจ็บอยู่แต่อยากพัฒนาความเร็ว การปั่นจักรยานฝึกซ้อม  intervals ก็ใช้ได้เหมือนกัน โดยเมื่อเป็นในระดับความเข้มข้นปานกลางได้สัก ประมาณ 1ชั่วโมง จึงมาเริ่ม  intervals โดยอาจจะแบ่งเป็น 6 – 10 เซต ปั่นเร็วสุดชีวิต 2 นาที พักหรือปั่นช้า ๆ 30 วินาที = 1 เซต แล้วจึงเริ่มต้นใหม่จนครบจำนวนเซตที่ตั้งเอาไว้ เมื่อครบแล้วจึงคูลดาวน์ 15-20 นาที พร้อมกับยืดเหยียด ถือเป็นการจบการฝึกซ้อมแล้ว

การปั่นจักรยาน ช่วยทำให้นักวิ่ง วิ่งได้ดีขึ้น