
ปั่นในเมืองให้ปลอดภัย ต้องปั่นยังไง
ปั่นในเมืองให้ปลอดภัย ต้องปั่นยังไง
ปัจจุบันนั้นคนหันมาปั่นจักรยานกันมากขึ้น ไม่ว่าจะปั่นเอออกกำลังกาย หรือปั่นเพื่อการเดินทาง แต่อย่างหนึ่งที่เป็นอุปสรรคในการปั่นในบ้านเรานั้นก็คือ ความปลอดภัยในการปั่นจักรยานนั่นเอง ด้วยจำนวนรถที่มากมาย แถมการจราจรที่ติดขัด จึงต้องระมัดระวังในการปั่นจักรยานกันเป็นพิเศษ จึงมีวิธีปั่นในเมืองให้ปลอดภัยมาฝากกัน
-ชิดซ้ายไว้ แต่อย่าติดขอบจนเกินไป ด้วยถนนในบ้านเรายังไม่มีเลนจักรยานที่เพียงพอ การปั่นชิดซ้ายก็คงจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อป้องกันรถมาเฉี่ยวชน แต่ควรเว้นระยะห่างจากขอบถนน พอสมควร เพื่อป้องกันการตกไปในไหล่ทาง หรือท่อน้ำนั่นเอง
-การปั่นข้ามแยก ถ้าหากบริเวณนั้นมีสัญญาณไฟจราจรก็ควรจอดรอไฟเขียว และมองซ้ายมองขวาให้ดี และควรมองรถข้างหลังที่ตามมาอีกด้วย
-ไม่ขับส่ายไปส่ายมา เพราะการขับส่ายไปส่ายมานั้น ทำให้รถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ที่ตามมา คาดเดาไม่ออกว่าเรากำลังจะไปทางไหน และอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้
-ดูป้ายสัญลักษณ์ หรือสัญลักษณ์จราจรให้ดี และควรทำตามกฎ ให้เคร่งครัด ไม่ต่างจากการขี่มอเตอร์ไซค์หรือรถยนต์ เพื่อเป็นการป้องกันการเฉี่ยวชนที่ออาจเกิดขึ้นได้อย่างไม่คาดคิด
-มองไกล ๆ เข้าไว้ ถึงแม้การปั่นจักรยานในเมืองอาจทำให้วิสัยทัศน์การมองเห็นไม่ค่อยดีนักด้วยเหตุปัจจัยหลาย ๆ อย่างเช่นมีรถจอดขวางอยู่ แต่การพยายามมองไกล ๆไว้ จะทำให้เราคาดเดาล่วงหน้าได้ และเป็นการลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุนั่นเอง
-อย่าเผลอ อย่าประมาทโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะมือที่จับแฮนด์จักรยาน ต้องจับให้แน่นตลอดเวลา เพราะเมื่อเราจับแฮนด์แน่นก็เป็นการเตรียมพร้อมที่จะบีบเบรกได้อย่างทันท่วงทีในเวลาที่เกิดเหตุการณ์คับขันนั่นเอง
-ระมัดระวังเวลาแซง โดยการจะแซงนั้นไม่ควรแซงด้านซ้ายโดยเด็ดขาด เพราะธรรมชาติของคนที่ใช้รถใช้ถนนส่วนใหญ่มักไม่ค่อยมองกระจกทางด้านซ้ายนั่นเอง ถึงแม้ว่าจะมีพื้นที่ให้แทรก การจะแซงไม่ว่าจะเป็นรถที่ขับช้ากว่าเราหรือรถที่จอดอยู่ ก็ควรทิ้งระยะห่าง 1 เมตร และที่สำคัญก่อนแซงควรมองรถที่ตามมาจากด้านหลังว่าปลอดภัยดีแล้วจึงค่อยแซง
การปั่นจักรยานในเมืองนั้น จำเป็นต้องใช้ความระมัดระวัง มากกว่าการปั่นนอกเมืองพอสมควร ทางที่ดีถ้าคิดจะปั่นจักรยานเพื่อการออกกำลังกายแล้วควรหาสถานที่จัดไว้สำหรับการปั่นโดยเฉพาะจะดีกว่า หรือถ้าจะปั่นถนนจริง ๆ ก็ควรเลือกจะปั่นออกนอกเมืองคงจะดีที่สุด