รู้หรือไม่ จักรยานของโปร และของคุณแตกต่างกันตรงไหน

 สำหรับจักรยานในยุคสมัยใหม่นี้ ในท้องตลาดก็มีให้เลือกใช้มากมายหลายค่าย หลายรุ่น ซึ่งส่วนใหญ่นั้น ก็เป็นแบรนด์ดัง ที่นักปั่นโปรใช้ทำการแข่งขันทั้งสิ้น และหากจะว่าไปแล้วการที่เราซื้อจักรยานสักรุ่นมาใช้ปั่นออกกำลังกายนั้น ส่วนใหญ่ก็เป็นจักรยานมาตรฐานเดียวกันกับนักปั่นโปรนั่นแหละ เราสามารถที่จะเลือกซื้อให้เหมือนทุกส่วนก็ยังได้ ไม่ว่าจะเป็นทั้งสี วัสดุในการผลิต หรือแม้แต่ยางเรียกว่าสั่งซื้อแบบให้เหมือน 100% ก็ยังได้ไม่มีปัญหาแต่แต่อย่างใด แต่สำหรับบางสิ่งบางอย่างนั้น มันเหมาะกับนักปั่นโปรจริง ๆ การซื้อมาใช้ต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน ที่สำคัญที่สุดควรเลือกอุปกรณ์ที่เข้ากับตัวเรา และจักรยานจะดีที่สุดอย่าไปเดินตามนักปั่นโปรให้มาก เมื่อมาถึงตรงนี้แล้วหลายคนอาจจะงงกับหัวข้อที่จั่วไว้ แล้วจักรยานของโปรมันแตกต่างยังไงกับของเรา มาเฉลยกันเลย

เบอร์แข่ง– หากใครเคยลงแข่งจักรยาน คงจะคุ้นเคยกันดีกับการใช้เคเบิลไทรัดเบอร์แข่งติดเข้ากับตัวจักรยาน ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติทั่วไปไม่เห็นแปลกใช่ไหมล่ะ แต่ถ้าดูการติดเบอร์แข่งของนักปั่นจักรยานระดับโปรแล้ว เอาจะมีชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่มีไว้สำหรับติดป้ายเบอร์ในให้ยามลงทำการแข่งขันโดยที่ช่างประจำทีมจะให้วิธีดัดแปลงวัสดุ สำหรับติดเบอร์ขึ้นมาเอง ซึ่งทำให้จักรยานของนักปั่นโปร ของทีมต่าง ๆ ที่เราเห็นนั้นจะดูเป็นระเบียบเรียบร้อย ดูเป็นมืออาชีพ (ว่างั้นเถอะ ฮ่า ๆ) และยังคงเพิ่มความสะดวกมากกว่าใช่สายเคเบิ้ลทาย ที่ต้องเสียเวลารัด หรือตัดออก (จริง ๆ มันก็ไม่ได้ยุ่งยากมากมายนะ ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้)

การเซ็ตรถจักยาน– สำหรับนักปั่นจักรยานโปรนั้น ด้วยความเป็นมืออาชีพจึงจำเป็นต้องฝึกซ้อมอย่างหนัก และมีแบบแผนเป็นอย่างมากแต่ละสัปดาห์ต้องฝึกกันหลายสิบชั่วโมง ทำให้ร่างกายของนักแข่งโปรนั้นแข็งแรงมีความยืดหยุ่นเป็นอย่างสูง ซึ่งนั้นทำให้ท่าปั่นจึงค่อนข้างจะแตกต่างจากนักปั่นปกติ ไม่ว่าจะเป็นการก้ม การเหยียด การเซ็ตจักรยานก็แตกต่างอย่างเห็นได้ชัด และชัดเจนเป็นอย่างมาก แต่หากคุณจะปรับเซ็ตจักรยานให้เหมือนกับนักปั่นโปรก็สามารถทำได้ แต่แน่นอนว่าคุณจะไม่สามารถปั่นจักรยานแบบไม่เป็นสุขอย่างแน่แท้

จักรยานนักปั่นโปรต้องถ่วงน้ำหนัก– ด้วยการที่ สหพันธ์จักรยานแห่งนานาชาติ (UCI) ออกกฎหารแข่งขันออกมาว่าจักรยานที่เข้าทำแข่งขันในรายการต่าง ๆ ของ UCI น้ำหนักจักรยานจะต้องหนักไม่ต่ำกว่า 6.8 กิโลกรัม ทีมโปรต่าง ๆ จึงต้องคุมน้ำหนักจักรยานของนักปั่นอย่างเคร่งครัดไม่ว่าจะเป็นการใช้ แอโร่ที่น้ำหนักมากขึ้น หรืออาจเพิ่มอุปกรณ์อื่น ๆ เข้าไปเพื่อให้น้ำหนักจักรยานอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งนั่นทำให้น้ำหนักจะมากกว่าจักรยานตัวท็อปที่มีขายอยู่ในท้องตลาดอย่างแน่นอน สำหรับข้อนี้ใครที่ใช้จักรยานตัวท็อปอยู่แล้ว ก็คงไม่อยากเลียนแบบนักปั่นโปรแน่ ๆ เพราะนอกจากน้ำหนักจักรยานจะเพิ่มขึ้น ยังต้องเสียตังเงินอีกด้วยถือว่าผิดหลักสำหรับนักปั่น (ฮ่า)

อุปกรณ์พิเศษ–  หากสังเกตให้ดีจะมีชิ้นส่วนที่แตกต่างออกไปจากจักรยานของเราที่ทำออกมาสำหรับนักแข่งโปร อย่างตัวสเต็ม ที่ต้องทำออกมาเป็นพิเศษเพื่อนักปั่นโปรคนนั้น ๆ โดยเฉพาะ รวมไปจนถึงชุดขับแตกต่างจากปกติทั่วไปที่ทนต่อแรงเสียดทานได้มากกว่าปกติซึ่งในตัวขับเคลื่อนนี้ก็สามารถซื้อมาติดตั้งได้ และอีกอย่างที่ค่อนข้างจะเป็นพิเศษจริง ๆ ก็คือดรอปเอ้าท์ ที่จะเป็นแบบแข็งแรงทนทาน เพื่อป้องกันปัญหาตีนผีรวมไปถึงเกียร์ ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุขึ้น